วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ปัญหาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก

ปัญหาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๑ – ๓
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
***********************************
๑. ๑.๑. หนังสือพุทธานุพุทธประวัติมีก ีปริเฉท จำนวนพระสาวก ๘๐ รูป อยู่ในปริเฉทท ีเท่าไร ? ๒๕๓๙
๑.๒. ปัญจมหาวิโลกนะ คืออะไร ? ๒๕๓๙
๒. ๒.๑. พระพุทธเจ้าประกอบด้วยสัมปทาคุณเท่าไร ? ๒๕๓๗
๒.๒. สัมปทาคุณแต่ละข้อมีความหมายอย่างไร ? ๒๕๓๗
๓. ๓.๑. ชาวชมพูทวีปนับถือศาสนาอะไรเป็นพื9น และคติแห่งศาสนานั9นเป็นอย่างไร ? ๒๕๔๒
๓.๒. ความเห็นของผู้ถือศาสนานั9น แยกเป็นก ีประเภท อะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร ? ๒๕๔๒
๔. ๔.๑. ความเมา ๓ ประการท ีพระสิทธัตถะทรงดำริเห็นนั9น ได้แก่อะไร ? ๒๕๔๐
๔.๒. อุบายท ีพระสิทธัตถกุมารจะออกไปจากทุกข์นั9นคืออะไร เพราะเหตุไร จึงใช้อุบายนี9 ? ๒๕๔๐
๕. ๕.๑. อุปมา ๓ ข้อ ท ีพระองค์ทรงพิจารณาเห็นโทษของการประพฤติกามสุขัลลิกานุโยคนั9นคืออะไร
บ้าง ? ๒๕๔๐
๕.๒. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่าอะไร ทางสุดโต่ง ๒ สายท ีปรากฏในพระสูตรนี9 คืออะไร ? ๒๕๔๐
๖. บุคคลและสถานท ีต่อไปนี9 เก ียวข้องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร
๖.๑. พระเจ้าอมิโตทนะ ? ๒๕๓๘
๖.๒. ต้นพระศรีมหาโพธิC ? ๒๕๓๘
๗. ๗.๑. ลักษณะทั9ง ๒ ท ีพระพุทธองค์ทรงเห็นในมัชฌิมยามแห่งราตรีตรัสรู้คืออะไรบ้าง ? ๒๕๔๓
๗.๒. พระอุทานที พระพุทธองค์ทรงเปล่งในปัจฉิมยามมีความว่าอย่างไร ? ๒๕๔๓
๘. ๘.๑. ท ีว่า “ดวงตาเห็นธรรม” นั9น เห็นธรรมอะไร ใจความว่าอย่างไร ? ๒๕๔๒
๘.๒. จงบอกชื อพระสาวกที ได้ดวงตาเห็นธรรมมา ๓ ท่าน และท่านได้จากใคร ? ๒๕๔๒
๙. ๙.๑. ทรงทำอายุสังขาราธิษฐาน หมายถึงอะไร ? ๒๕๔๓
๙.๒. ญาณ ๓ ในอริยสัจ ๔ คืออะไร บอกมาให้ครบ ? ๒๕๓๙
๑๐. ๑๐.๑. หลังจากตรัสรู้แล้ว ประทับอยู่ใต้ร่มมหาโพธิC ทรงพิจารณาธรรมอะไร มีความหมายอย่างไร?
๒๕๔๐
๑๐.๒. ในมรรคมีองค์ ๘ ทำไมพระองค์จึงทรงแสดงปัญญาไว้ก่อนศีล และสมาธิ ? ๒๕๓๘
***********************************
เฉลยพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๑ – ๓
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
**********************************
๑. ๑.๑. มี ๑๓ ปริเฉท จำนวนพระสาวก ๘๐ รูป อยู่ในปริเฉทที ๑๒ ฯ
๑.๒. ปัญจมหาวิโลกนะ คือ การที พิจารณาเลือกความเหมาะสม ๕ อย่าง ของพระโพธิสัตว์ก่อนลงมา
อุบัติในมนุษยโลก เพื อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ
๑. กาล ๒. ทวีป ๓. ประเทศ ๔. ตระกูล ๕. มารดา ฯ
๒. ๒.๑. ประกอบด้วยสัมปทาคุณ ๓ ประการ
๒.๒. คือ ๑. เหตุสัมปทา ได้แก่พระมหากรุณาสมาโยค และพระอุตสาหะในการบำเพ็ญบารมีเพื อ
สัมมาสัมโพธิญาณ
๒. ผลสัมปทา คือความสำเร็จแห่งรูปกาย อานุภาพปหานะ การละกิเลส และญาณท ีหยัง
รู้ประจักษ์ชัด
๓. สัตตูปการสัมปทา คือการทรงบำเพ็ญอุปการะแก่สัตว์ด้วยโยคะ และอาสยะอันบริสุทธิC
๓. ๓.๑. ประชาชนส่วนมากนับถือศาสนาพราหมณ์เป็นพื9น ฯ และคติแห่งศาสนาพราหมณ์นั9นถือว่า
โลกธาตุและสิ งทั9งปวง พระอิศวรเป็นเจ้าทรงสร้างขึ9น และถือว่าธาตุทั9งปวง มี ดิน น9ำ ลม ไฟ
เป็นต้น ล้วนมีเทวดาประจำอยู่ทั9งสิ9น ฯ
๓.๒. ความเห็นของผู้ถือศาสนาพราหมณ์นั9น เม ือกล่าวโดยความคงมี ๒ คือ พวกหนึ งเห็นว่าตายแล้วเกิด
อีกพวกหนึ งถือว่าตายแล้วศูนย์ ฯ
๔. ๔.๑. ความเมา ๓ ประการ คือ
๑. ความเมาในวัย ๒. ความเมาในความไม่มีโรค ๓. ความเมาในชีวิต ฯ
๔.๒. อุบายนั9น คือ การบรรพชาฯ เพราะว่าชีวิตของความเป็นฆราวาสเป็นท ีคับแคบ และเป็นท ีตั9งแห่ง
อารมณ์อันทำใจให้เศร้าหมอง ขัดเคือง การออกบรรพชาเป็นช่องทางที จะแสวงหาอุบายแก้ทุกข์
นั9นได้ ฯ
๕. ๕.๑. อุปมา ๓ ข้อ คือ
๑. สมณะเปรียบเหมือนไม้สดท ีแช่น9ำ
๒. สมณะเปรียบเหมือนไม้สดที มียาง
๓. สมณะเปรียบเหมือนไม้แห้งฯ
๕.๒. แปลว่าสูตรว่าด้วยการหมุนพระธรรม (การประกาศธรรม) ฯ ทางสุดโต่ง ๒ สาย คือ กามสุขัลลิกา
นุโยค และอัตตกิลมถานุโยค ฯ
๖. ๖.๑. พระเจ้าอมิโตทนะ เป็นพระกนิฏฐภาดาของพระเจ้าสุทโธทนะ จึงเป็นพระเจ้าอาของพระพุทธเจ้า
๖.๒. ต้นพระศรีมหาโพธิC เป็นสหชาติของพระพุทธเจ้า และเป็นไม้ท ีพระพุทธเจ้าประทับนัง ตรัสรู้ ฯ
๗. ๗.๑. คือ ๑. ปัจจัตตลักษณะ ได้แก่ การกำหนดโดยความเป็นกอง
๒. สามัญญลักษณะ ได้แก่การกำหนดโดยความเป็นสภาพเสมอกัน คือความเป็นของไม่เทียง
๗.๒. มีความว่า เม ือใดธรรมทั9งหลายปรากฏชัดแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ พราหมณ์นั9นย่อมกำจัด
เสนามาร คือ ชรา พยาธิ มรณะเสียได้ ดุจพระอาทิตย์อุทัยขึ9นกำจัดมืดทำอากาศให้สว่างฉะนั9น
๘. ๘.๑. คือ เห็นเกิดและดับ ฯ ใจความว่า สิ งใดสิ งหนึ งมีความเกิดขึ9นเป็นธรรมดาสิ งนั9นทั9งหมด มีความ
ดับเป็นธรรมดา ฯ
๘.๒. ๑. พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรมจากพระบรมศาสดา
๒. พระสารีบุตร ได้ดวงตาเห็นธรรมจากพระอัสสชิ
๓. พระมหาโมคคัลลานะ ได้ดวงตาเห็นธรรมจากพระสารีบุตร
๙. ๙.๑. ทรงทำอายุสังขาราธิษฐาน หมายถึงทรงตั9งพระหฤทัยจักอยู่แสดงธรรมสั งสอนแก่มหาชน และตั9ง
พุทธปณิธานใคร่จะดำรงพระชนม์อยู่ จนกว่าพุทธบริษัทจักตั9งมัน และได้ประกาศพระศาสนาให้
แพร่หลาย ประดิษฐานให้มัน คงถาวรแก่นิกรทุกหมู่เหล่า ฯ
๙.๒. คือ ๑. สัจจญาณ ๒. กิจจญาณ ๓. กตญาณ ฯ
๑๐. ๑๐.๑. ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท มีความหมายว่า ธรรมทั9งหลายอาศัยกัน และกันเกิดขึ9นฯ
๑๐.๒. เพราะเหตุที ว่า หากไม่ทรงแสดงปัญญาก่อนแล้ว แม้ศีล และสมาธิก็อาจปฏิบัติผิดทางได้ เพราะ
ขาดปัญญา ฉะนั9นพระบรมศาสดาจึงทรงแสดงปัญญาก่อนศีล และสมาธิฯ
**********************************

ปัญหาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๔ - ๖
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
***********************************
๑. ๑.๑ พระศาสดาทรงแสดงอนุปุพพิกถา และอริยสัจ ๔ ตามลำดับแก่บุคคล ผู้มีคุณสมบัติเช่นไร ?
๒๕๔๔
๑.๒ พระศาสดาประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่พระยสกุลบุตรว่าอย่างไร ? ๒๕๔๔
๒. ๒.๑ ขันธ์ ๕ คืออะไร เป็นอัตตาหรืออนัตตา ? ๒๕๔๒
๒.๒ พระบรมศาสดาทรงแสดงเร3ืองขันธ์แก่ใครเป็นครัง5 แรก ได้ผลอย่างไร ? ๒๕๔๒
๓. ๓.๑ เทศนากัณฑ์ไหนที3ทรงแสดงบ่อยยิ3งกว่าเทศนากัณฑ์อื3น ๆ ในปฐมโพธิกาล ? ๒๕๓๙
๓.๒ เทศนากัณฑ์นัน5 มีเนือ5 ความว่าอย่างไร ? ๒๕๓๙
๔. จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนีพ5 อได้ความ
๔.๑ สามุกกังสิกเทศนา ? ๒๕๓๖
๔.๒ อนัตตลักขณสูตร ? ๒๕๓๖
๕. ๕.๑ ชฎิลทัง5 ๓ คนพ3ีน้องคือใครบ้าง ตัง5 อาศรมอยู่ท3ีไหน ? ๒๕๔๑
๕.๒ ชฎิลทัง5 ๓ นัน5 คนไหนท3ีนับว่าเป็นนักปกครองท3ีดีเป็นท3ีนับถือของบริษัทมาก ? ๒๕๔๑
๖. ๖.๑ ข้อท3ีว่า “ขอเราพึงรู้ทว3ั ถึงธรรมของพระอรหันต์” นัน5 เป็ นความปรารถนาของใคร ? ๒๕๔๑
๖.๒ ความปรารถนานัน5 สำเร็จบริบูรณ์ได้เม3ือใด ? ๒๕๔๑
๗. ๗.๑ ภัททวัคคีย์กุมารคือใคร มีความเกี3ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร ? ๒๕๓๙
๗.๒ ภัททวัคคีย์กุมารฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าในครัง5 แรกแล้ว ได้บรรลุมรรคผลชัน5 ไหน ? ๒๕๓๙
๘. ๘.๑ พระอัครสาวก ๒ รูปมีช3ือเรียกอะไรบ้าง เหตุไรจึงเรียกอย่างนัน5 ? ๒๕๔๓
๘.๒ พระอัสสชิแสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชกมีความอย่างไร และมีผลอย่างไร ? ๒๕๔๓
๙. ๙.๑ “เราจักไม่ชูงวงไปสู่สกุล” หมายความว่าอย่างไร ? ๒๕๔๐
๙.๒ ในการอนุเคราะห์สพรหมจารีเพ3ือนบรรพชิตด้วยกันนัน5 พระอัครสาวกทัง5 สองได้รับยกย่องใน
ฐานะเช่นไร ? ๒๕๓๙
๑๐. ๑๐.๑ พระอัครสาวกทัง5 สองนิพพานท3ีไหน ใครนิพพานก่อน ? ๒๕๓๙
๑๐.๒ ผลงานสำคัญครัง5 สุดท้ายของพระสารีบุตรคืออะไร ? ๒๕๓๙
-----------------------------------------
เฉลยพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๔ - ๖
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
***********************************
๑. ๑.๑ แก่ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนีค5 ือ
๑. เป็นมนุษย์ ๒. เป็นคฤหัสถ์ ๓. มีอุปนิสัยแก่กล้า ควรบรรลุโลกุตตรคุณ ฯ
๑.๒ ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด ฯ
๒. ๒.๑ ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ฯ เป็นอนัตตา มิใช่อัตตา ฯ
๒.๒ ทรงแสดงแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ ฯ ผลคือ พระปัญจวัคคีย์สำเร็จเป็นพระอรหันต์ พ้นจาก
อาสวกิเลส ไม่ถือมั3นด้วยอุปทาน ฯ
๓. ๓.๑ เทศนาที3ทรงแสดงบ่อยในปฐมโพธิกาล คือ อนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจจ์ ฯ
๓.๒ เนือ5 ความย่อคือ อนุปุพพิกถา ๕ คือ
๑. ทานกถา กล่าวถึงทาน
๒. สีลกถา กล่าวถึงการรักษาศีล
๓. สัคคกถา กล่าวถึงสวรรค์
๔. กามาทีนวกถา กล่าวถึงโทษของกาม
๕. เนกขัมมานิสังสกถา กล่าวถึงอานิสงส์ของการบวช
และจตุราริยสัจจ์
๑. ทุกข์ สภาวะที3ทนได้ยาก
๒. สมุทัย สาเหตุทำให้ทุกข์เกิด
๓. นิโรธ ความดับทุกข์
๔. มรรค ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ฯ
๔. ๔.๑ สามุกกังสิกเทศนา คือเทศนาที3เปรียบเทียบเหมือนหงายของที3ควํ3าได้แก่อริยสัจ ๔ นั3นเอง
๔.๒ อนัตตลักขณสูตร คือ สูตรท3ีว่าด้วยส3ิงทัง5 ปวง คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
เป็นอนัตตา
๕. ๕.๑ คือ อุรุเวลกัสสปะ นทีกัสสปะ คยากัสสปะ ตัง5 อาศรมอยู่ท3ีไกล้ฝังแม่นำ5 เนรัญชรา
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมฯ
๕.๒ พระอุรุเวลกัสสปะ นับว่าเป็นนักปกครองที3ดี ที3สามารถควบคุมบริวารไว้ได้มาก ฯ
๖. ๖.๑ เป็นความปรารถนาของพระเจ้าพิมพิสาร ครัง5 ยังทรงเป็นพระราชกุมาร ฯ
๖.๒ ความปรารถนานัน5 สำเร็จบริบูรณ์ในวันท3ีได้ฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔ ท3ีพระพุทธเจ้า
ทรงแสดงโปรด ณ สวนตาลหนุ่มจนได้ดวงตาเห็นธรรม ฯ
๗. ๗.๑ ภัททวัคคีย์กุมารคือ โอรสของพระเจ้ามหาโกศล เมืองสาวัตถี จำนวน ๓๐ องค์ ได้พาชายา
ของตน ๆ ไปประพาสป่า ได้เที3ยวตามหาหญิงแพศยาคนหนึ3ง ซึ3งลักเครื3องประดับหายไปได้
พบพระพุทธเจ้าในไร่ฝ้าย และได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์จนได้บรรลุมรรคผล
แล้วได้รับอุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาที3เมืองปาวาแคว้นโกศล ฯ
๗.๒ องค์เล็กสุด (น้องคนสุดท้อง) ได้บรรลุโสดาปัตติผล นอกนัน5 ได้บรรลุสกทาคามิผล ฯ
๘. ๘.๑ มีชื3อเรียก อุปติสสะ หรือสารีบุตร๑ เรียก โกลิตะ หรือ โมคคัลลานะ๑ ที3เรียกว่า อุปติสสะ
เพราะเรียกตามโคตร ที3เรียกว่า สารีบุตร เพราะเป็นบุตรของนางสารีพราหมณี ส่วนที3
เรียกว่า โกลิตะ เพราะเรียกตามโคตร ที3เรียกว่า โมคคัลลานะเพราะเป็นบุตรของ
นางโมคคัลลีพราหมณี ฯ
๘.๒ มีความว่า ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุของธรรมนัน5 และความดับแห่ง
ธรรมนัน5 พระศาสดาทรงสอนอย่างนี 5 มีผล คือ อุปติสสปริพาชกได้ดวงตาเห็นธรรมว่า
ส3ิงใดส3ิงหนง3ึ มีความเกิดขึน5 เป็นธรรมดา ส3ิงนัน5 ทัง5 หมดมีความดับเป็นธรรมดา ฯ
๙. ๙.๑ หมายความว่า สมณะพึงเข้าไปสู่สกุลด้วยความสำรวม ไม่มีใจคอยจับผิดสกุล ชาวบ้านมี
ภาระมากมีกิจท3ีจะต้องทำมาก อาจขาดความเอาใจใส่ต่อสมณะบ้างเป็นครัง5 คราว สมณะไม่
พึงยกงวงชูงาเข้าสู่สกุล คือ ไม่พึงทะนงตน ไม่พึงกระทบศรัทธาและโภคะของเขา ไม่ทำให้
เขาเสื3อมศรัทธาและไม่เบียดเบียนโภคะของเขา ฯ
๙.๒ พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ให้กำเนิด พระโมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลีย5 ง
ทารกท3ีเกิดแล้วนัน5 พระสารีบุตรย่อมแนะนำให้ตัง5 อยู่ในโสดาปัตติผล ส่วนพระโมคคัลลานะ
ย่อมแนะนำให้ตัง5 อยู่ในคุณเบือ5 งบนท3ีสูงกว่านัน5 ฯ
๑๐. ๑๐.๑ พระสารีบุตรนิพพานที3บ้านเกิดของท่านเอง เมืองนาลันทา, ส่วนพระโมคคัลลานะนิพพาน
ที3ตำบลกาฬศิลา แคว้นมคธ, โดยพระสารีบุตรนิพพานก่อนพระโมคคัลลานะ ๑๕ วัน คือ
พระสารีบุตรนิพพานวันเพ็ญเดือน ๑๒ ส่วนพระโมคคัลลานะนิพพานวันดับเดือน ๑๒ คือ
เดือนกัตติกมาส ปีเดียวกัน ฯ
๑๐.๒ ผลงานครัง5 สุดท้ายของพระสารีบุตร คือ ท่านได้แสดงธรรมโปรดมารดาของท่านซง3ึ เป็น
มิจฉาทิฏฐิให้สำเร็จเป็นสัมมาทิฏฐิพระโสดาบัน ฯ
------------------------------------

ปัญหาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๗–๙
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
******************************
๑. ๑.๑พระมหากัสสปเถระประพฤติธุดงควัตรเพราะเห็นอำนาจประโยชน์อย่างไร ? ๒๕๔๓
๑.๒ เมื(อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านเป็นกำลังสำคัญแก่พระพุทธศาสนาอย่างไร ? ๒๕๔๓
๒. ๒.๑ คำว่า “ภทเทกรตโต ผู้มีราตรีเดียวอันเจริญ คือการปฏิบัติอย่างไร ? ๒๕๔๓
๒.๒ พระสาวกรูปใดได้รับการยกย่องว่าเห็นผู้ฉลาดอธิยายความย่อให้พิสดาร ? ๒๕๔๓
๓. ๓.๑ พระมหากัสสปะ เลิศในทางใด ? ๒๕๓๙
๓.๒ อุณาโลม คืออะไร ? ๒๕๓๖
๔. กิจท(ีพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญเป็นปกตินั:น ๒๕๓๗
๔.๑ เรียกว่าอะไร มีกี(ประการ ?
๔.๒ จงบอกกิจนั:น ๆ มาให้ครบ ?
๕. ๕.๑ ปัญหาว่า “พระขีณาสพตายแล้วเป็นอะไร” ใครถามใคร ? ๒๕๔๓
๕.๒ พระศาสดาทรงพยากรณ์ปัญหาจบลงแล้ว มีผลอะไรเกิดแก่มาณพ ๑๖ คน ? ๒๕๔๓
๖ ๖.๑ ปัญหาว่า “หมู่มนุษย์ในโลกนี:เป็นอันมาก อาศัยอะไรจึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา” ดังนี:
ใครเป็นผู้ถาม ? ๒๕๔๒
๖.๒ ปัญหาข้อ ๖.๑ นั:น พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?๒๕๔๒
๗. ๗.๑ ปัญหาว่า “โลกมีอะไรผูกพันไว้ อะไรเป็นเคร(ืองสัญจรของโลกนั:น ท่านกล่าวว่านิพพาน ๆ ดังนี:
เพราะละอะไรได้” ดังนี: ใครเป็นผู้ถาม ? ๒๕๔๑
๗.๒ พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ปัญหานี:ว่าอย่างไร ? ๒๕๔๑
๘. ๘.๑ พราหมณ์พาวรี ผูกปัญหาให้ศิษย์กี(คน ไปทูลถามพระบรมศาสดาเพื(อประสงค์อะไร ? ๒๕๓๘
๘.๒ ใครทูลถามว่า “จะพิจารณาเห็นอย่างไร มัจจุราชจึงมองไม่เห็น”
และทรงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?๒๕๓๘
๙. ๙.๑ พระปุณณมันตานีบุตรเกี(ยวข้องโดยชาติสกุลกับพระอัญญาโกณฑัญญะอย่างไร ? ๒๕๓๙
๙.๒ พระปุณณมันตานีบุตร ดำรงตนอยู่ในธรรมก(ีประการ อะไรบ้าง ? ๒๕๓๙
๑๐. ๑๐.๑ ศิษย์เอกของพระอัญญาโกณฑัญญะคือใคร เลิศในทางไหน ? ๒๕๓๘
๑๐.๒ ฉัพพัณณรังสีคืออะไร บอกมาให้ครบ ? ๒๕๓๗
-------------------------------------------------------
เฉลยพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๗–๙
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
-----------------------------------------
๑. ๑.๑ เพราะเห็นอำนาจประโยชน์ ๒ อย่าง คือ
๑. การอยู่เป็นสุขในบัดนี:ของตน
๒. เพื(ออนุเคราะห์ประชุมชนในภายหลัง จะได้เป็นทิฏฐานุคติแห่งคนผู้มาเกิดในภายหลัง
เม(ือทราบว่า สาวกของพระพุทธเจ้าได้ประพฤติอย่างนี: เขาจะได้ประพฤติตาม ซึ(งเป็น
ทางอำนายสุขแก่เขาเอง ฯ
๑.๒ ท่านได้เป็นประธานทำสังคายนาเป็นครั:งแรก ฯ
๒. ๒.๑ คือการปฏิบัติอย่างนี: คือเป็นผู้มีความเพียร ไม่เกียจคร้านทั:งกลางวันและกลางคืน อยู่ด้วย
ความไม่ประมาท
๒.๒ พระมหากัจจายนะ ฯ
๓. ๓.๑ พระมหากัสสปะเลิศใน ๓ ทาง คือ
๑. อยู่ป่ าเป็นวัตร ๒. ใช้ผ้า ๓ ผืนเป็นวัตร
๓. เที(ยวบิณฑบาตเป็นวัตร
๓.๓ ขนท(ีขึ:นระหว่างคิ:วทั:งสอง ท่ามกลางหน้าผาก เวียนขวา
๔. ๔.๑ เรียกว่า พุทธกิจ มี ๕ ประการ
๔.๒ คือ ๑. เวลาเช้า เสด็จบิณฑบาต
๒. เวลาเย็น แสดงธรรม
๓. เวลาคํ(า ประทานโอวาทแก่ภิกษุ
๔. เวลาเที(ยงคืน แก้ปัญหาเทวดา
๕. เวลาใกล้รุ่ง ทรงตรวจดูสัตว์โลกผู้ควรจะบรรลุธรรม ฯ
๕. ๕.๑ พระสารีบุตรถามพระยมกะ มีคำตอบว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่เที(ยง
ดับไปแล้ว ฯ
๕.๒ มีผลคือ มาณพ ๑๖ คน เว้นปิงคิยมาณพ ส่งใจไปตามธรรมเทศนามีจิตพ้นจากอาสวะไม่ถือ
มัน( ด้วยอุปาทาน ส่วนปิ งคิยมาณพเป็นแต่ได้ญาณเห็นในธรรม ฯ
๖. ๖.๑ ปุณณมาณพ เป็นผู้ทูลถาม ฯ
๖.๒ พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า “หมู่มนุษย์เหล่านั:น อยากได้ของท(ีตนปรารถนาอาศัยของท(ีมี
ชราทรุดโทรม จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา” ฯ
๗. ๗.๑ อุทยมาณพเป็นผู้ทูลถาม ฯ
๗.๒ พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์ว่า “โลกมีความเพลิดเพลินผูกพันไว้ ความตรึกเป็นเครื(องสัญจร
ของโลกนั:น ท่านกล่าวว่า นิพพาน ๆ เพราะละตัณหาเสียได้ ฯ
๘. ๘.๑ ผูกปัญหาให้ศิษย์ ๑๖ คน เพื(อประสงค์จะสอบสวนให้แน่นอนว่า พระโอรสของศากยราชเสด็จ
ออกบรรพชา ปฏิญญาณพระองค์เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตามข่าวลือนั:น เป็นจริง
หรือไม่
๘.๒ โมฆราชมาณพ เป็นผู้กราบทูลถามปัญหาเช่นนั:น ทรงพยากรณ์ว่า ดูก่อนโมฆราช ท่านจง
เป็นผู้มีสติ ถอนอัตตานุทิฏฐิออกเสียแล้ว พิจารณาเห็นโลกโดยความเป็นของสูญทุกเมื(อเถิด
ท่านจะข้ามมัจจุราชเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี: มัจจุราชจะไม่เห็นท่านผู้พิจารณาเห็นโลก
ด้วยอาการอย่างนี: ฯ
๙. ๙.๑ เก(ียวข้องดังนี: คือ ท่านเป็นบุตรของนางพราหมณ์มันตานี ซึ(งเป็นพ(ีน้องหญิงของ
พระอัญญาโกณฑัญญะ ฯ
๙.๒ ดำรงมัน( อยู่ในคุณธรรม ๑๐ ประการ คือ
๑. มักน้อย ๒. สันโดษ ๓. ชอบสงัด ๔. ไม่ชอบเก(ียวข้องด้วยหมู่
๕. ปรารภความเพียร ๖. สมบูรณ์ด้วยศีล ๗. สมบูรณ์ด้วยสมาธิ
๘. สมบูรณ์ด้วยปัญญา ๙. สมบูรณ์ด้วยวิมุตติ
๑๐. สมบูรณ์ด้วยความรู้เห็นในวิมุตติ
๑๐. ๑๐.๑ ศิษย์เอกคือพระปุณณมันตานีบุตร ท่านเลิศในทางธรรมกถึก ฯ
๑๐.๒ รังสี ๖ คือ สีนิลเขียวสด ๑. สีเหลือง ๑, สีแดง ๑, สีขาว๑, สีหงสบาท๑,
(คือ สีปนเหลืองหรือสีแสด) และสีประภัสสร
--------------------------------------------

ปัญหาพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๑๐–๑๓
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
******************************
๑. ๑.๑ ข้อความว่า “ขออย่าให้พระภิกษุทั งหลายบวชบุตรท ีบิดามารดายังไม่
อนุญาต” เป็นคำพูดของใคร มีความเป็นมาอย่างไร ? ๒๕๔๔
๑.๒ พระราหุลได้สำเร็จพระอรหันต์ เพราะได้สดับธรรมอะไร ? ๒๕๔๔
๒. ๒.๑ เพราะเห็นอานิสงส์อะไร พระอานนท์จึงทูลขอพรข้อที ๘ ? ๒๕๔๓
๒.๒ พระอุบาลีออกบวชพร้อมใครบ้าง ที ไหน ท่านได้รับเอตทัคคะทางไหน ? ๒๕๔๓
๓. ๓.๑ พระอานนท์ได้ดวงตาเห็นธรรม ด้วยการฟังโอวาทจากใคร ? ๒๕๔๑.
๓.๒ มีเหตุผลอะไร ที พระศาสดาจึงโปรดให้บวชอุบาลีก่อนเจ้าศากยะ ? ๒๕๔๐
๔. ๔.๑ พระอนุรุทธเถระเป็นลูกใคร ? ๒๕๓๔
๔.๒ ท่านเลิศในทางไหน ? ๒๕๓๔
๕. ๕.๑ ธรรมุทเทศ ๔ ใครแสดงแก่ใคร ? ๒๕๓๕
๕.๒ ธรรมุทเทศ ๔ นั น แต่ละข้อความว่าอย่างไร ? ๒๕๓๕
๖. ๖.๑ พระโสณโกฬิวิสะ เป็นศิษย์ของใคร ? ๒๕๓๔
๖.๒ พระโสณโกฬิวิสะ มีเอตทัคคะทางไหน บรรลุพระอรหัตด้วยเทศนาอะไร ? ๔๐
๗. ๗.๑ เหตุคือความเส ือมท ีทำให้คนออกบวชนั น พระเจ้าโกรัพยะตรัสถามพระรัฐบาลว่า
อย่างไร ? ๒๕๓๙
๗.๒ พระโสณโกฬิวิสะ ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ที ไหน ? ๒๕๓๙
๘. ๘.๑ ภิกษุณีผู้มีช ือต่อไปนี ได้รับเอตทัคคะในทางไหน ? ๒๕๔๔
พระนางมหาปชาบดีโคตมี นางเขมา นางอุบลวัณณาเถรี
๘.๒ พระสงฆ์เถรวาทในเมืองไทยไม่สามารถบวชภิกษุได้เพราะเหตุไร ? ๒๕๔๔
๙. ๙.๑ เม ือรวมเจดีย์ซึ งแสดงไว้ในบาลี อรรถกถา และฎีกา มีเท่าไร อะไรบ้าง ? ๒๕๔๓
๙.๒ อันตรธาน ๕ อย่าง อย่างไหนสำคัญกว่า เพราะเหตุไร ? ๒๕๔๓
๑๐. ๑๐.๑ ประมาณแห่งการตั งอยู่แห่งพระศาสนาได้แก่อะไร ? ๒๕๔๒
๑๐.๒ อจลเจดีย์คืออะไร เกิดขึ นเม ือไร ? ๒๕๔๑
.
เฉลยพุทธานุพุทธประวัติ นักธรรมชั นเอก
ปริเฉทที ๑๐–๑๓
อบรมก่อนสอบธรรมสนามหลวง ณ วัดพระธรรมกาย
************************
๑. ๑.๑ เป็นพระดำรัสของพระเจ้าสุทโธทนะ มีความเป็นมาอย่างนี คือเม ือพระนันทะ
พระราชโอรสขอผนวช พระเจ้าสุทโธทนะทรงโทมนัสเป็นอันมาก ครั นราหุลกุมาร
บวชแล้ว สิ นผู้ท ีจะสืบพระวงศ์ ยิง ทรงโทมนัสมากขึ น ทรงปรารภถึงทุกข์อันนี ท ี
จะพึงมีแก่มารดาบิดาในตระกูลอ ืนในเวลาเม ือบุตรออกบวชจึงทูลขอพรนี
๑.๒ เพราะได้สดับพระโอวาทซึ งสั งสอนในทางวิปัสสนา คล้ายกับโอวาทท ีตรัสสอน
พระปัญจวัคคีย์ ต่างกันแต่ทรงยกอายตนะภายนอกเป็นต้นขึ นแสดงแทนขันธ์ ๕
เท่านั น
๒. ๒.๑ เพราะเห็นอานิสงส์ว่าหากมีผู้มาถามว่า ธรรมนี พระพุทธองค์ทรงแสดงในท ีใดถ้า
ท่านตอบไม่ได้ เขาจะพูดได้ว่า ท่านตามเสด็จพระศาสดาตลอดกาลนานไม่รู้แม้
แต่เร ืองเท่านี
๒.๒ พระอุบาลีออกบวชพร้อมกับ พระภัททิยะ พระอนุรุทธะ พระอานันทะ พระภัคคุ
พระกิมพิละ พระเทวทัต ท ีอนุปิ ยนิคม ได้รับเอตทัคคะทางเลิศกว่าภิกษุทั งหลาย
ผู้ทรงพระวินัย
๓. ๓.๑ พระอานนท์ได้ฟังโอวาทจากพระปุณณมันตานีบุตร
๓.๒ กษัตริย์ศากยะมีมานะถือตัวกล้า อุบาลีเป็นคนรับใช้มานาน ให้อุบาลีบวชก่อน
เพื อเจ้าศากยะที บวชภายหลังจักได้ทำการกราบไหว้ ลุกต้อนรับ ประนมมือและ
กิจท ีสมควรอ ืนๆแก่อุบาลี เม ือเป็นเช่นนี จักละมานะความถือตัวว่าเป็นศากยะได้
๔. ๔.๑ พระอนุรุทธเถระท่านเป็นลูกของพระเจ้าอมิโตทนะ
๔.๒ ท่านได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาว่าเป็นผู้เลิศในทางมีทิพยจักษุ
๕. ๕.๑ ธรรมุทเทศ ๔ พระรัฏฐบาลแสดงแก่พระเจ้าโกรัพยะ
๕.๒ ใจความของธรรมุทเทศแต่ละข้อนั น คือ
๑. โลกคือหมู่สัตว์อันชราเป็นผู้นำ นำเข้าไปใกล้ ไม่ยัง ยืน
๒. โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีผู้ป้ องกัน ไม่เป็นใหญ่จำเพาะตน
๓. โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีอะไรเป็นของของตน จำต้องละสิ งทั งปวงไป
๔. โลกคือหมู่สัตว์พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ ม เป็นทาสแห่งตัณหา
๖. ๖.๑ พระโสณโกฬิวิสะ เป็นศิษย์ของพระมหากัจจายนะ
๖.๒ ท่านมีเอตทัคคะในทางปรารภความเพียร บรรลุอรหัตด้วยเทศนาที ว่าด้วย
อุปมาของพิณ ๓ สายท ีพระพุทธเจ้าทรงยกขึ นแสดง
๗. ๗.๑ พระเจ้าโกรัพยะตรัสถามถึงสาเหตุที ทำให้คนออกบวช คือ ความแก่๑
ความเจ็บ๑ ความสิ นไปแห่งโภคทรัพย์๑ ความสิ นญาติมิตร๑
๗.๒ ฟังธรรมที เขาคิชฌกูฏ แขวงกรุงราชคฤห์
๘. ๘.๑ พระนางมหาปชาบดีโคตมี ได้รับเอตทัคคะในทางรัตตัญHู
นางเขมาเถรี ได้รับเอตทัคคะในทางมีปัญญา
นางอุบลวัณณาเถรี ได้รับเอตทัคคะในทางมีฤทธIิ
๘.๒ เพราะมีพระพุทธานุญาตว่า “ภิกษุณีต้องบวชจากภิกษุณีสงฆ์แล้ว จึงบวชจาก
ภิกษุสงฆ์อีกครั งหนึ ง “ แล้วเวลานี ภิกษุณีสงฆ์ไม่มีแล้ว การท ีจะบวชภิกษุณี
จึงไม่สามารถทำได้
๙ ๙.๑ มี ๔ คือ ธาตุเจดีย์๑ บริโภคเจดีย์๑ ธรรมเจดีย์๑ อุทเทสิกเจดีย์๑
๙.๒ ปริยัติอันตรธานสำคัญกว่า เพราะปริยัติเสื อมลงในกาลใด พระศาสดาย่อม
เส ือมถอยในกาลนั น เม ือปริยัติยังดำรงอยู่ตราบใด พระศาสนายังดำรงอยู่
ตราบนั น เพระว่าปริยัติเป็นรากแก้วของพระศาสนา ปฏิบัติเป็นแก่น ปฏิเวธ
เป็นผล เมื อรากแก้วขาดแล้ว แก่นและผลก็พลอยหมดไปตามกัน
๑๐. ๑๐.๑ ประมาณแห่งการตั งอยู่แห่งศาสนาได้แก่ ปริยัติ คือพระไตรปิ ฎกทั ง ๓ คือ
พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก
๑๐.๒ อจลเจดีย์ คือ สถานท ีประดิษฐานเชิงบันไดทั ง ๓ คือ บันไดเงิน บัดไดทอง
บันไดแก้ว เกิดขึ น เกิดขึ นเม ือวันขึ น ๑๕ คํ า เดือน ๑๑ ในปีท ีเสด็จลงจาก
เทวโลก ฯ
************************************











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น